Search for:
  • Home/
  • Games News/
  • “ทางหลวง” เผยกลุ่มเอกชนสนใจร่วมลงทุนที่พักริมทาง “ศรีราชา-บางละมุง”

“ทางหลวง” เผยกลุ่มเอกชนสนใจร่วมลงทุนที่พักริมทาง “ศรีราชา-บางละมุง”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่กรมทางหลวง(ทล.)นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. ได้แถลงแผนการประมูลคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในการพัฒนาและบริหารจัดการโครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชาและโครงการสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)หมายเลข7(M7)สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง

โดยภายในงานได้รับความสนใจจากเอกชนเข้าร่วมหลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น บริษัท คิง พาวเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กลุ่มธุรกิจพลังงาน เช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มก่อสร้างและบริหารมอเตอร์เวย์และทางด่วน เช่น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เป็นต้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นายสราวุธ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนใช้บริการมอเตอร์เวย์ทั้ง 2 เส้นทาง ได้แก่ มอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 และ มอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 อย่างต่อเนื่อง ประมาณ 600,000 กว่าคันต่อวัน แบ่งเป็น ผู้ใช้มอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 จำนวน 250,000 คันต่อวัน ส่วนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 จำนวน 300,000-400,000 คันต่อวัน ดังนั้น ทล. ได้ดำเนินการที่พักริมทางหลวง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกผู้ใช้ทางและยกระดับการให้บริการของระบบมอเตอร์เวย์  สู่มาตรฐานสากล โดยจะเป็นจุดแวะพักที่ผู้เดินทางสามารถพักผ่อนอิริยาบถจากการเดินทาง ทำธุระส่วนตัว ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียจากความเหนื่อยล้าหรือหลับในของผู้ขับขี่ ตลอดจนช่วยให้ผู้ใช้ทางประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายจากการเดินทางเข้า-ออกมอเตอร์เวย์ โดยไม่จำเป็นอีกด้วย  

ทล. ได้ออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนที่พักริมทาง M7 จำนวน 2 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 1,800 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา วงเงินค่าก่อสร้างพัฒนาพื้นที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท และ 2.โครงการสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง วงเงิน 800 ล้านบาท ซึ่งการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ เป็นไปตามขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย ทล. จะจำหน่ายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal: RFP) ของทั้ง 2 โครงการพร้อมกัน ในราคาเอกสาร 200,000 บาทต่อโครงการ ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.-22 ก.ย. 66 ระหว่างเวลา 09.00-15.00 น.

ผู้ที่สนใจเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการฯ ข้อกำหนดคุณสมบัติต่างๆ และขั้นตอนการคัดเลือกเอกชน ได้จากประกาศเชิญชวนฯ (ฉบับทางการ) ที่เว็บไซต์ www.doh.go.th หรือ www.doh-motorway.com โดย ทล. กำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอช่วงปลายเดือน พ.ย. 66 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเอกชนตาม RFP โดยเอกชนที่เสนอผลตอบแทนที่เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐสูงสุดจะได้รับการคัดเลือก คาดว่าจะคัดเลือกเอกชนแล้วเสร็จในต้นปี 67 พร้อมลงนามสัญญา จากนั้นจะเริ่มต้นก่อสร้างช่วงกลางปี 67 เปิดให้บริการบางส่วนปี 68 และเปิดบริการเต็มรูปแบบปี 69

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้คาดว่าจะมีเอกชนเข้าร่วมการประมูลจำนวนมาก เพราะจากที่จัดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) มีเอกชนเข้าร่วมสัมมนา ซึ่งเอกชนที่สนใจขณะนี้จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเชิงพาณิชย์ ห้างสรรพสินค้า ให้จำหน่ายและบริการด้านพลังงานเชื้อเพลิง ธุรกิจก่อสร้างบริหารจัดการมอเตอร์เวย์ และ ทางพิเศษ (ทางด่วน) และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เช่น เดอะมอลล์ เซ็นทรัล และ ปตท. เป็นต้น ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้เอกชนที่เข้ามาร่วมลงทุนจะสามารถแสดงศักยภาพในการพัฒนาที่พักริมทางหลวงได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ทลคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ได้เตรียมพื้นที่ไว้ให้ดำเนินการอย่างเพียงพอ และใช้วงเงินในการลงทุนไม่สูง

อย่างไรก็ตาม หากเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนครั้งนี้แล้ว ไม่มีเอกชนสนใจซื้อเอกสารสักราย ทล. เตรียมแผนดำเนินการปะกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนเป็นครั้งที่ 2 ต่อไป  

สำหรับการดำเนินงานโครงการฯ จะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Public Private Partnership: PPP)ในรูปแบบPPP Net Costโดย ทล. จะส่งมอบพื้นที่โครงการฯ ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างที่พักริมทางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงมีหน้าที่บริหารจัดการและดูแลบำรุงรักษาโครงการฯ ตลอดจนเป็นผู้มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรายได้ของโครงการฯ โดยต้องชำระค่าตอบแทนให้ ทล. ตามเงื่อนไขที่กำหนด ภายในระยะเวลาดำเนินโครงการ32ปี แบ่งเป็นงาน2ระยะ ดังนี้

ระยะที่1การออกแบบและก่อสร้าง เอกชนมีหน้าที่จัดหาแหล่งเงินทุน ออกแบบและก่อสร้างองค์ประกอบและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ รวมถึงจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาไม่เกิน2ปีและ ระยะที่2การดำเนินงานและบำรุงรักษา เอกชนมีหน้าที่ดูแลและบำรุงรักษา รวมถึงการบริหารจัดการโครงการฯ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาไม่เกิน30ปี

สำหรับค่าตอบแทนนั้น จากผลการศึกษาได้ประเมินไว้ว่า ในปีแรกที่เปิดบริการพื้นที่ศรีราชาเอกชนจะต้องจ่ายให้ ทล. ประมาณ 24 ล้านบาท ขณะที่บางละมุงในปีแรกต้องจ่ายค่าตอบแทน 10 ล้านบาท จากนั้นจะต้องมีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนทุก 3 ปี ทั้งนี้ เอกชนสามารถเสนอค่าตอบแทนได้มากกว่านี้ได้ เพราะทำให้ได้เปรียบในการร่วมลงทุน

โครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา เป็นที่พักริมทางขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณ กม.93+500 ของมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงชลบุรี-พัทยา ระหว่างทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) และทางแยกต่างระดับหนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แบ่งพื้นที่เป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งทิศทางมุ่งหน้าออกจากกรุงเทพมหานคร และฝั่งทิศทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร มีขนาดพื้นที่ฝั่งละประมาณ 59 ไร่

ส่วนโครงการสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง เป็นที่พักริมทางขนาดกลางตั้งอยู่บริเวณ กม.137+100ของมอเตอร์เวย์ หมายเลข7ช่วงพัทยา-มาบตาพุด อยู่ระหว่างทางแยกต่างระดับห้วยใหญ่ และทางแยกต่างระดับเขาชีโอน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แบ่งพื้นที่เป็น2ฝั่ง คือ ฝั่งทิศทางมุ่งหน้าออกจากกรุงเทพมหานคร และฝั่งทิศทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร มีขนาดพื้นที่ฝั่งละประมาณ38ไร่

ทั้งนี้ ที่พักริมทางทั้ง 2 แห่ง จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ครบครัน ประกอบด้วย ที่จอดรถ พื้นที่พักผ่อน พื้นที่สีเขียว ห้องสุขา ที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ที่จำหน่ายสินค้าและบริการ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ศูนย์บริการข้อมูลจราจรและเส้นทางการเดินทาง และการบริการอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เดินทาง